G-JNQN4BECGS
top of page
รูปภาพนักเขียนYukifix Center

ถ้าจะซื้อสมาร์ทโฟนมาเล่นเกม ต้องดูอะไรบ้าง?

อัปเดตเมื่อ 30 พ.ย. 2565



ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเกมสมาร์ทโฟนสมัยนี้ ตอนนี้มาแรงมากๆ ในเรื่องของความสะดวกสบายในการเล่นพกพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา และ ยังมีความสนุก เล่นกับเพื่อนได้ และ เกมส่วนใหญ่ก็ ฟรีอีกด้วย จึงทำให้ตลาดเกมบนสมาร์ทโฟนนั้น โตแบบก้าวกระโดดจริงๆ

แต่..จะเล่นเกมให้สนุกแบบไม่สะดุดนั้น จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์ที่ดีด้วย จุดนี้ถือเป็นหัวใจของคนเล่นเกมสมาร์ทโฟน เพราะเกมหลายเกม ก็ล็อคสเปกเอาไว้อยู่แล้ว แต่สมาร์ทโฟนที่มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ก็ไม่ใช่ทุกตัวที่จะเล่นเกมนั้นๆได้ทั้งหมด วันนี้ผมเลยจะมาแนะนำการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนยังไง ให้เหมาะกับการนำมาเล่นเกมกันครับ


CPU คือหัวใจสำคัญในการเล่นเกม

CPU หรือหน่วยประมวลผลของสมาร์ทโฟนนั้นจะมีแค่ไม่กี่แบรนด์ ให้ทำความเข้าใจง่ายๆก่อนดังนี้


iPhone/iPad ใช้ Apple Chipset โดยจะมีเพียง 2 ซีรีย์ คือ

A ตามด้วยตัวเลข สำหรับใช้ใน iPhone เช่น A9 A10 A11 และ A12

ในรุ่นใหม่ๆ จะมีคำว่า Bionic ต่อท้ายด้วย

A ตามด้วยตัวเลข และตามด้วย X จะเป็นรุ่นที่อัพเกรดหน่วยประมวลผลกราฟฟิค เช่น A10X A11X ซึ่งจะอยู่บน iPad เท่านั้น

ข้อดีอย่างหนึ่งในการซื้อ iPhone หรือ iPad คือเราแทบไม่ต้องกังวลเลย ว่าจะเล่นเกมได้ดีหรือไม่ เพราะถึงแม้จะซื้อรุ่นที่ถอยหลังไปอย่างน้อย 2 ปี ก็ยังประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีอยู่ แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์การเล่นที่จัดเต็มจริงๆ iPad จะตอบโจทย์ที่สุด


Android รุ่นท็อปส่วนใหญ่ จะใช้ CPU ประมาณ 3 แบรนด์ ดังนี้


Exynos จะอยู่บนสมาร์ทโฟน Samsung เป็นส่วนใหญ่ ออกแบบและพัฒนาโดย Samsung เอง

ซีรีย์ 8800,9800 และ 900 โดยจะเป็นตัวท็อปตั้งแต่ปี 2016-2020 ตามลำดับ ซีรีย์เหล่านี้จะอยู่ในรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S และ Note เป็นส่วนใหญ่ โดยซีรีย์ใหม่ล่าสุดอย่าง 980 และ 990 ก็ถือนำไปใช้ใน S20 ตัวใหม่ ส่วนแบรนด์อื่น นอกเหนือจาก Samsung ก็มี Vivo รุ่น X30 เป็นต้น

Qualcomm จะอยู่บนสมาร์ทโฟน Sony, HTC, Xiaomi, Oneplus และอีกหลายแบรนด์

Snapdragon 800 จะเป็นซีรีย์ที่แรงที่สุดของค่ายนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่สุด และราคาก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ ตัวเลขรุ่นก็จะเปลี่ยนไป เช่น 820,855,865 เป็นต้น

HiSilicon จะอยู่บนสมาร์ทโฟน Huawei และ Honor เป็นส่วนใหญ่ ผู้คนจะคุ้นชินในชื่อซีรีย์ ที่มีชื่อว่า Kirin เป็นส่วนใหญ่ เพราะใช้ชื่อนี้ในการโปรโมต

Kirin 900 รุ่นแรงของแบรนด์นี้ เช่น Kirin 970,980,990 เป็นรุ่นที่อยู่ในรุ่นท็อปอย่าง Huawei ซีรีย์ P และ Mate เป็นต้น

เป็นเรื่องที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบันที่หากจะซื้อสมาร์ทโฟนมาเล่นเกมแบบเด็ดจริงๆ เราก็จะต้องเลือกรุ่นที่ CPU มาแรงที่สุดในช่วงปีนั้นๆ หรือหากจะถอยไปอย่างน้อย 1 ปีก็ยังถือว่าโอเคอยู่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นอกจะดูที่ CPU ก็ต้องดูรอมของแบรนด์นั้นๆด้วย เพราะมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่น ที่ถึงแม้จะใช้ CPU รุ่นเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพการใช้งานนั้นก็ค่อนข้างต่างกันพอสมควร แต่สำหรับการเลือกซื้อนั้น หากเน้นมาเล่นเกมจริงๆ คนจะมองเป็น Qaulcomm > Exynos > HiSilicon ตามลำดับ



Android รุ่นกลางจะมี CPU ให้เลือกใช้มากยิ่งขึ้นประมาณ 4 แบรนด์ ดังนี้


Mediatek เป็นแบรนด์ที่มีความนิยมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นกลางเยอะมาก เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง จึงนิยมนำมาทำตลาดในรุ่นระดับกลางค่อนข้างเยอะ

P Series จะเป็นซีรีย์ที่แบรนด์สมาร์ทโฟนนิยมหยิบมาใช้กันมากที่สุด โดยเฉพาะ OPPO และ Vivo เช่น P35,P70 และ P90 เป็นต้น

G Series จะเป็นซีรีย์ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนเกมมิ่งในราคาประหยัด เช่น G70,G80 และ G90 แรงกว่าตระกูล P แต่ราคาก็แรงขึ้นด้วย

Exynos รุ่นกลางของ Samsung เองก็มีหลายรุ่น ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆ จะมีการนำเอา CPU จะแบรนด์อื่นมาใช้ แต่ของตัวเองก็ยังมีหลายรุ่นอยู่

Exynos 7800 และ 7900 ซีรีย์ คือ CPU รุ่นใหม่ในช่วงปี 2018-2019 ที่นิยมนำมาใส่ในสมาร์ทโฟนรุ่นกลางๆอย่าง Galaxy A และ M เช่น Exynos 7872, 7884 series, 7885 และ 7904

Qualcomm ในรุ่นกลางนี้ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น สังเกตได้จากแบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดังหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Sony, Xiaomi และอีกหลายๆรุ่นก็เริ่มหันมาใช้มากขึ้น

Snapdragon 600 เป็นซีรีย์ที่ใช้เยอะ และผู้ใช้งานก็ค่อนข้างพึงพอใจ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งาน และราคาของสมาร์ทโฟนที่ประมวลผลด้วย CPU ซีรีย์นี้ เช่น 660,665 และ 675 เป็นต้น

Snapdragon 700 ซีรีย์น้องใหม่ ที่พึ่งมีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นรุ่นที่แรงกว่าซีรีย์ 600 แต่ก็ไม่สู้ซีรีย์ 800 เรียกได้ว่าเหมาะกับสมาร์ทโฟนที่ต้องการความแรงในระดับที่เล่นเกมได้ดี แต่ยังอยู่ในราคาที่เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายกว่า โดยทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ ตัวเลขรุ่นก็จะเปลี่ยนไป เช่น 720,730,765 เป็นต้น

HiSilicon ก็จะมีแค่เพียงไม่กี่รุ่นที่ใช้ CPU ตระกูล Kirin รุ่นต่ำลงมา เพื่อทำราคาในตลาดระดับกลาง แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Huawei และ Honor

Kirin 710 ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะออกมาตั้งแต่ช่วงปี 2018 แต่ปัจจุบันก็ยังพอมีใช้อยู่บ้าง โดยรุ่นชูโรงจะเป็นรุ่น Nova 3i, Mate 20Lite, P30 Lite และ Y9 2019 เป็นต้น

Kirin 810 เป็นรุ่นที่อัพเกรดขึ้นมา ใช้ในสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวหลัง Q2 ในช่วงปี 2019 ได้แก่รุ่น Nova 5, Honor 9x,9 Pro และ Mate 30Lite

สำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาช่วง 9,000-15,000 บาท เป็นกลุ่มที่ค่อยข้างมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับรุ่นที่จะโดดเด่นในเรื่องการเล่นเกมนั้น จริงๆมีอยู่ไม่กี่รุ่น อยู่ที่ว่าแบรนด์ออกสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆออกมาเพื่อจุดประสงค์ใด เน้นกล้อง เน้นประสิทธิภาพการทำงาน หรือว่าเน้นความคุ้มค่า แต่หากใครที่เลือกไม่ถูก จริงๆแล้วผมจะบอกว่าพอเป็นระดับกลางๆ ทุกตัวจะมีความสามารถไกล้เคียงกันหมด แต่ราคาจะต่างกันพอสมควร ถามให้จัดอันดับความแรงทั้งประสิทธิภาพและราคาแล้ว ก็ยังคงเป็น Qualcomm > Exynos > HiSilicon > Mediatek ตามลำดับ



GPU ที่มาควบคู่ ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ใครที่เป็นเกมเมอร์บน PC คงจะคุ้นชินกับ CPU และ GPU เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ GPU หรือเรียกอีกอย่างว่าหน่วยประมวลผลกราฟฟิค ซึ่งบน PC ก็จะมีทั้งแบบ Onboard(มี GPU ติดมากับ CPU เลย) และแบบแยก ซึ่งบนสมาร์ทโฟนปัจจุบันยังไม่มีแยก ก็จะเป็นลักษณะคล้าย Onboard คือมีมาให้ควบคู่กับ CPU รุ่นนั้นๆเลย


หลังจากที่เราทราบกันแล้ว ว่า CPU หลักๆ ที่สมาร์ทโฟนในปัจจุบันใช้กัน มีแบรนด์และรุ่นอะไรบ้าง ต่อไปเรามาดูกันครับ ว่าแต่ละตัวนั้น มาพร้อม GPU อะไร


Apple AXX มาพร้อม Apple GPU

Qualcomm Snapdragon XXX มาพร้อม Adreno XXX

Exynos XXX มาพร้อม Mali-GXX

HiSilicon Kirin XXX มาพร้อม Mali-GXX

Mediatek MTXXXX มาพร้อม PowerVR XXXX

จะเห็นได้ว่า แต่ละแบรนด์ก็จะใช้ GPU ที่แตกต่างกันออกไป ยกเว้น Exynos จาก Samsung และ Kirin จาก Huawei ที่ใช้ Mali-GXX เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกัน ในบรรดา GPU ของสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ยังถือว่า Adreno เป็นตัวแข็งที่สุดอยู่ ซึ่งความสามารถในปัจจุบัน ก็ท้าชน Apple GPU บน Apple A ได้ในระดับนึงเลยทีเดียว


RAM ยุคนี้ไปถึงไหนกันแล้ว?

สมัยนี้ คนที่เลือกซื้อสมาร์ทโฟน อาจจะมองข้ามเรื่องหน่วยความจำแรมไปแล้ว เพราะหน่วยความจำมาตรฐานเดี๋ยวนี้ อยู่ที่ 4-6 GB หากเป็นรุ่นท็อปก็อยู่ที่ 8-12 GB กันเลยทีเดียว หากมองแบบผิวเผิน เราก็คงไม่คิดอะไรมาก ก็คงจะเลือกสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีแรมเยอะๆเอาไว้ก่อน


หลายคนจะเข้าใจว่าแรมนั้นเป็นตัวที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถทำงานได้หลายๆแอพฯมากขึ้นในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการสลับการใช้งาน เรียกแอพฯที่ใช้งานก่อนหน้าได้เร็วขึ้น เป็นต้น


ปัจจุบัน แรมบนสมาร์ทโฟนนั้นก็มีหลายรูปแบบไม่แพ้บน PC เลย ในแง่ของการตลาด เราจะเห็นว่าทางแบรนด์จะเปิดเผยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นใช้แรมขนาดเท่าไหร่ แต่ไม่ค่อยบอกว่าใช้แรมประเภทอะไร สำหรับสมาร์ทโฟนนั้นจะใช้แรม LPDDR ไม่ใช่ DDR แบบ PC ซึ่ง LP ที่อยู่ด้านหน้าย่อมาจาก Low Power นั่นเอง


ปัจจุบันสมาร์ทโฟนจะใช้ LPDDR3, LPDDR4 ส่วนรุ่นท็อป ก็เริ่มขยับมาใช้ LPDDR4X และ LPDDR5 ที่มีความเร็วในการอ่านข้อมูลระหว่าง 5000Mb/s ไปจนถึง 6400Mb/s เลยทีเดียว ดังนั้น ก่อนซื้อก็อย่าลืมเช็คข้อมูลนะครับ ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีหน่วยความจำแรมเท่าไหร่ และใช้เป็นแบบไหน เพราะหากเราเลือกตัวที่หน่วยความจำแรมเยอะ แต่อ่านข้อมูลได้ช้า ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ครับ


การถ่ายโอนข้อมูล ยิ่งเร็ว ยิ่งโหลดเกมได้ไว

อธิบายแบบง่ายๆเลย ปัจจุบันหน่วยความจำภายในของสมาร์ทโฟนจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ eMMc เป็นประเภทหน่วยความจำแบบเก่า ที่ปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ไปจนถึงสมาร์ทโฟนระดับกลางบางรุ่น ส่วนรุ่นที่มีสเปกสูงขึ้นมาหน่อย หรือพวกตัวท็อป ก็จะใช้เป็นแบบ UFS ซึ่งเป็นแบบใหม่ ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าหลายเท่าตัว ปัจจุบันมีถึงรุ่นที่ 3 แล้ว

UFS2 และ 3 ถูกนำมาใส่บนสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป ไปจนถึงรุ่นกลางที่มีราคาระหว่าง 16,000-19,000 บาทหลายรุ่น เนื่องจากความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ต่อไปเวลาจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักรุ่น จะดูแค่หน่วยความจำเยอะเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้วนะครับ ถ้าอยากเล่นเกมสนุกๆ โหลดหน้าต่างๆได้เร็วทันเพื่อน ต้องดูที่ประเภทหน่วยความจำด้วยนะครับ

Comments


bottom of page