G-JNQN4BECGS
top of page
รูปภาพนักเขียนYukifix Center

ชาร์จมือถือในรถ จะเสื่อมเร็วจริงไหม ?

อัปเดตเมื่อ 30 พ.ย. 2565



ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือในรถ จะเสื่อมเร็วจริงไหม ?

ตอบข้อข้องใจ ชาร์จแบตเตอรี่มือถือในรถยนต์ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วจริงไหม?

วันนี้เรามีคำตอบ



ใครหลายคนที่ต้องขับรถเดินทางเป็นประจำ เมื่อแบตเตอรี่มือถือหมดกลางทาง ทำให้จำเป็นต้องชาร์จในรถบ่อย ๆ ซึ่งหลายคนก็เลือกที่จะใช้ที่ชาร์จในรถ เพราะสะดวกกว่าการพก แบตสำรอง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่กังวล เพราะเคยได้ยินมาว่า การชาร์จมือถือในรถอาจทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมได้ แต่มันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น วันนี้เราจะชวนไปหาคำตอบกันครับ


การชาร์จมือถือในรถ แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็ว จริงไหม?

การชาร์จแบตเตอรี่ในรถนั้น ถ้าจะบอกว่าทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมเร็วขึ้นหรือไม่ คงจะฟันธงไม่ได้ แต่ถ้าชาร์จผิดวิธีก็อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย อย่างการใช้ตัวแปลงไฟหรือสายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน การเสียบชาร์จทิ้งไว้ตอนสตาร์ตเครื่อง หรือ ชาร์จขณะใช้งานอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างในรถพร้อมกัน ทำให้การจ่ายไฟไปยังมือถือไม่สม่ำเสมอ หรืออาจเกิดไฟกระชาก ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือ เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับระบบไฟของตัวรถด้วยว่าเป็นรถยี่ห้อใด รุ่นเก่าแค่ไหน ทำระบบไฟมาดีหรือไม่ ซึ่งถ้าหากชาร์จอย่างถูกวิธี และ ระบบไฟรถจ่ายไฟได้สม่ำเสมอ ก็สามารถชาร์จมือถือได้โดยไม่เกิดผลเสียใด ๆ



ชาร์จมือถือในรถอย่างไรให้ปลอดภัย

ถ้าหากใครจำเป็น และ ต้องการชาร์จมือถือในรถจริง ๆ ก็มีสิ่งที่ควรรู้ และ ปฏิบัติตามเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ หรือ มือถือขณะชาร์จได้ ดังนี้


1. ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน

การชาร์จมือถือในรถนั้น ในกรณีที่รถไม่มีช่อง USB หรือ แท่นชาร์จมือถือมาให้ จำเป็นต้องซื้อที่ชาร์จเพิ่มเพื่อเสียบกับที่จุดบุหรี่ ซึ่งบางคนอาจจะซื้อแบบที่ผลิตมาไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เสี่ยงเกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ หรือ โทรศัพท์ได้ จึงควรเลือกซื้ออุปกรณ์หัวชาร์จแปลงไฟ และ สายชาร์จที่มียี่ห้อ ได้มาตรฐาน เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้ถูกต้อง และจ่ายไฟ สม่ำเสมอ



2. สตาร์ตรถก่อนแล้วค่อยชาร์จ

การเสียบชาร์จมือถือไว้ก่อนสตาร์ตรถมีโอกาสที่จะทำให้เกิดกระแสไฟไม่สม่ำเสมอหรือไฟกระชากขณะสตาร์ตรถ ทำให้แบตเตอรี่หรือมือถือเกิดความเสียหายได้ จึงควรสตาร์ตรถให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงเสียบชาร์จมือถือทีหลัง และถอดออกเมื่อชาร์จเสร็จแล้ว ไม่ควรเสียบชาร์จทิ้งไว้เมื่อดับเครื่องยนต์

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่มั่นใจหรือกังวลว่าแบตเตอรี่มือถือจะเสื่อมเร็วเมื่อชาร์จในรถ อาจเลือกใช้ แบตสำรอง แทนได้ ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า แถมยังสามารถพกไปชาร์จนอกรถได้ด้วย แต่ก็ต้องเลือกใช้ยี่ห้อที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐานด้วยนะครับ

Commentaires


bottom of page