G-JNQN4BECGS
top of page

10 วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืดบนมือถือ Android



ค้นพบ 10 วิธีแก้ไขเครื่องอืดช้า Android
ค้นพบ 10 วิธีแก้ไขเครื่องอืด ช้า หรือเครื่องค้าง ใน Android ทุกรุ่น

10 วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืดบนมือถือ Android ให้กลับมาลื่นเหมือนใหม่

ผู้ใช้มือถือ Android หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้มือถือรุ่นราคาประหยัด หรือมือถือที่ใช้งานมานาน อาจพบปัญหาว่าเครื่องเริ่มอืด ช้า ไม่ลื่นไหลเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ อาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไฟล์ขยะมากเกินไป การเปิดแอปพลิเคชันค้างไว้ หรือแม้แต่การตั้งค่าบางอย่างที่ทำให้เครื่องทำงานหนักโดยไม่จำเป็น


แต่ไม่ต้องกังวล! เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปดู 10 วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืดบนมือถือ Android ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง รับรองว่าถ้าทำตามครบทุกข้อ มือถือของคุณจะกลับมาเร็วแรงเหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่แน่นอน!


1. อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอยู่เสมอ

ระบบปฏิบัติการ Android และแอปต่างๆ มักมีการอัปเดตอยู่เสมอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรวมถึงการแก้ไขบั๊ก และปรับปรุงการทำงานให้ลื่นไหลขึ้น ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบและอัปเดตซอฟต์แวร์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

วิธีอัปเดตระบบปฏิบัติการ:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก >> เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone)

  3. แตะ >> อัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)

  4. หากมีเวอร์ชันใหม่ ให้กด >> ดาวน์โหลดและติดตั้ง

วิธีอัปเดตแอปพลิเคชัน:

  1. เปิด >> Google Play Store

  2. แตะที่ไอคอนโปรไฟล์ของคุณ

  3. เลือก >> จัดการแอปและอุปกรณ์ (Manage apps & device)

  4. แตะ >> อัปเดตทั้งหมด (Update all)


 

2. เคลียร์หน้า Home Screen ให้สะอาดตา

การใช้ Widget มากเกินไป หรือเลือกใช้ Live Wallpaper อาจทำให้เครื่องช้าลง เพราะมันใช้ทรัพยากรของระบบอยู่ตลอดเวลา

วิธีแก้ไข:

  • ลบ >> Widget ที่ไม่จำเป็นออก

  • เปลี่ยนจาก >> Live Wallpaper >> เป็นภาพนิ่งแทน

  • จัดระเบียบไอคอนแอปให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อลดภาระของระบบ


 

3. ปิดเอฟเฟกต์แอนิเมชันที่ไม่จำเป็น

แอนิเมชันและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ บน Android อาจดูสวยงาม แต่ก็กินทรัพยากรเครื่องมาก หากต้องการให้เครื่องเร็วขึ้น แนะนำให้ปิดหรือลดระดับแอนิเมชันลง

วิธีลดแอนิเมชัน:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก>> เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone)

  3. แตะ >> หมายเลขบิลด์ (Build Number) 7 ครั้ง >> เพื่อเปิดใช้งาน "ตัวเลือกนักพัฒนา"

  4. กลับไปที่ >> การตั้งค่า แล้วเลือก >> ตัวเลือกนักพัฒนา (Developer Options)

  5. ค้นหา >> Window Animation Scale, Transition Animation Scale และ Animator Duration Scale

  6. ตั้งค่าเป็น >> ปิด (Off) >> หรือปรับเป็น 0.5x เพื่อลดการทำงานของเอฟเฟกต์


 

4. ให้ GPU ช่วยประมวลผลกราฟิก

โดยปกติแล้ว ระบบ Android จะใช้ CPU เป็นหลักในการประมวลผล แต่เราสามารถเปิดให้ GPU ช่วยแบ่งเบาภาระบางส่วนได้ ทำให้เครื่องลื่นขึ้นได้

วิธีเปิด GPU Rendering:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก >> ตัวเลือกนักพัฒนา (Developer Options)

  3. เปิดใช้งาน >> Force GPU Rendering


หมายเหตุ: การเปิดฟีเจอร์นี้อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นเล็กน้อย


 

5. เปิด Data Saver ใน Chrome เพื่อให้เว็บโหลดเร็วขึ้น

Chrome มีฟีเจอร์ "Data Saver" ที่ช่วยบีบอัดข้อมูลเว็บ ทำให้โหลดเร็วขึ้น และยังช่วยประหยัดอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

วิธีเปิด Data Saver:

  1. เปิดแอป >> Chrome

  2. แตะที่ >> จุดสามจุด (⋮) มุมขวาบน

  3. เลือก >> การตั้งค่า (Settings)

  4. แตะ >> โหมดประหยัดข้อมูล (Lite mode / Data Saver) >> และเปิดใช้งาน


 

6. เคลียร์ Cache และลบไฟล์ขยะ

Cache เป็นไฟล์ที่ระบบสร้างขึ้นเพื่อให้แอปโหลดเร็วขึ้น แต่ถ้าสะสมมากเกินไป อาจทำให้เครื่องช้าได้

วิธีล้าง Cache:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก >> แอปพลิเคชัน (Apps & notifications)

  3. เลือกแอปที่ต้องการ แล้วแตะ >> ที่เก็บข้อมูล (Storage)

  4. แตะ >> ล้างแคช (Clear Cache)


 

7. ปิด Auto-Sync เพื่อลดภาระของระบบ

การซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติอาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น ลองปิดการซิงค์ของแอปที่ไม่จำเป็นดู

วิธีปิด Auto-Sync:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก >> บัญชี (Accounts)

  3. แตะ >> Google >> และปิดการซิงค์ของแอปที่ไม่จำเป็น


 

8. ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง (Background Services)

แอปบางตัวทำงานเบื้องหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว ทำให้เครื่องทำงานช้าลง ควรเข้าไปปิดแอปที่ไม่จำเป็น

วิธีปิดแอปที่รันอยู่เบื้องหลัง:

  1. ไปที่ >> การตั้งค่า (Settings)

  2. เลือก >> ตัวเลือกนักพัฒนา (Developer Options)

  3. แตะ >> จำกัดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง (Background Process Limit)

  4. เลือก >> จำกัดสูงสุด 2-3 แอป


 

9. หลีกเลี่ยงการใช้ Task Killer

แอปประเภท Task Killer อาจดูเหมือนช่วยปิดแอปให้เร็วขึ้น แต่จริงๆ แล้วกลับทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น เพราะระบบต้องเปิดแอปใหม่ทุกครั้งที่เรียกใช้งาน


 

10. Factory Reset คืนค่าโรงงาน

หากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายคือ "คืนค่าโรงงาน" (Factory Reset) เพื่อให้เครื่องกลับไปตั้งค่าเป็นเครื่องใหม่

อย่าลืม >> สำรองข้อมูล (Backup Data) ก่อนทำการรีเซ็ต!


 

สรุป  10 วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืดบนมือถือ Android 

บทความนี้นำเสนอ 10 วิธีแก้ปัญหาเครื่องอืดบนมือถือ Android ที่สามารถทำได้เองง่ายๆ เพื่อให้มือถือกลับมาเร็ว แรง และลื่นไหลเหมือนใหม่ ถ้าท่านลองทำตามวิธีที่แนะนำเบื้องต้นแล้วรับรองว่ามือถือ Android ของคุณจะกลับมาทำงานได้เร็วและลื่นไหลเหมือนใหม่แน่นอน!


 

YukiCenter ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือครบวงจร พร้อมบริการ 6 สาขาใกล้คุณ


คลิกที่สาขาได้เลยมีแผนที่นำทางให้ค่ะ







 

สอบถามหรือปรึกษาอาการเสียอื่นๆ ได้ที่ LINE OA: @yukifix_center

สายด่วน Call Center: 093-265-5254


 

อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง

Comments


bottom of page